Page 126 - Royal-Duties2559
P. 126
วันเสาร์ ที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๙
เวลา ๐๘.๐๐ น. (เวลาท้องถิ่น) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำาเนิน
โดยรถยนต์พระที่นั่ง จากโรงแรมไฮแอท รีเจนซี บิชเคก ซึ่งเป็นที่ประทับแรม ณ กรุงบิชเคก สาธารณรัฐคีร์กิซ ไปยัง
พิพิธภัณฑ์ปราเชวาลสกี เมืองคาราโคล เมืองหลวงของจังหวัดอิซซิก - กูล สาธารณรัฐคีร์กิซ เพื่อทอดพระเนตรนิทรรศการ
ประวัติของนายนิโคไล มิคาอิลโลวิค ปราเชวาลสกี นักวิทยาศาสตร์ และนักสำารวจชาวรัสเซีย ที่ศึกษาเกี่ยวกับภูมิศาสตร์
พันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าพื้นเมืองของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียกลาง
เวลา ๑๓.๒๐ น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่ง
จากโรงแรมเซ็นทารา โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ อุดรธานี อำาเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นที่ประทับแรม
ไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน ๒๓ อำาเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จไปยัง
โรงเรียนพรเจริญวิทยาอำาเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ทรงติดตามการปฏิบัติงานของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มูลนิธิ
แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) และหน่วยแพทย์พระราชทานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
ที่โปรดให้ไปบริการตรวจรักษาราษฎรที่เจ็บป่วย ในโอกาสนี้ ทรงเยี่ยมผู้ป่วยที่มาขอเฝ้า เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือ
จำานวน ๔ คน ซึ่งป่วยด้วยโรคและอาการต่าง ๆ ได้แก่ มะเร็ง หัวใจพิการแต่กำาเนิด อาการเข่าติดทั้ง ๒ ข้างตั้งแต่กำาเนิด
มะเร็งไทรอยด์ และพบก้อนเนื้อที่ลิ้น หลังมีพระวินิจฉัยอาการร่วมกับคณะแพทย์ โปรดให้ส่งตัวไปรักษาต่อที่
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์และโรงพยาบาลศิริราช ในโอกาสนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ สมาชิก พอ.สว. เฝ้า
และมีพระดำารัสเกี่ยวกับการน้อมนำาแนวพระราชดำาริของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
เรื่องการถือประโยชน์ส่วนตนเป็นกิจที่สอง ประโยชน์ส่วนรวมของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง มาเป็นแนวทางการปฏิบัติตน
สมควรแก่เวลา จึงเสด็จไปยังท่าอากาศยานอุดรธานี อำาเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง
เสด็จกลับกรุงเทพมหานคร
วันอาทิตย์ ที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๙
เวลา ๐๘.๐๐ น. (เวลาท้องถิ่น) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำาเนินโดย
รถยนต์พระที่นั่ง จากโรงแรมคาร์เวน โฟร์ ซีซันส์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นที่ประทับแรม ณ เมืองโชลพน - อาตา สาธารณรัฐคีร์กิซ
ไปยังพิพิธภัณฑ์ภาพสลักหินกลางแจ้งโชลพน - อาตา เพื่อทอดพระเนตรภาพสลักหินกลางแจ้ง ซึ่งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ของ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอิซซิก - กูล แสดงวัตถุโบราณประเภทต่าง ๆ เช่น อนุสาวรีย์หิน ภาพวาดบน
ก้อนหิน และสถานที่ฝังศพโบราณ ในช่วงเวลา ๒,๐๐๐ ปี ก่อนคริสตกาล ถึงศตวรรษที่ ๑๒ จากนั้น เสด็จพระราชดำาเนิน
ไปยังศูนย์วัฒนธรรมรูห์ โอร์โด ทอดพระเนตรศาสนสถานจำาลอง ๕ แห่ง ได้แก่ พุทธมหายาน ออโธด็อกซ์ อิสลาม
โรมันคาทอลิก และยิว ในการนี้ ทอดพระเนตรทะเลสาบอิซซิก - กูล ซึ่งตั้งอยู่บนความสูง ๑,๖๐๙ เมตร เหนือระดับ
นำ้าทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐคีร์กิซ ซึ่งมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นทะเลสาบแห่งเทือกเขา
แอลไพน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังเป็นทะเลสาบร้อน เนื่องจากไม่แข็งตัวเป็นนำ้าแข็งในช่วงฤดูหนาว
114